สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาพูดถึงความประทับใจหูฟังของผมซึ่ง ผู้ใหญ่ทุกท่านน่าจะรู้จักแบรน์นี้กันเป็นอย่างดีนั้นก็คือ Bose ในรุ่น IE 2 ( In-Ear ll ) นั้นเองนะครับ
ก่อนที่จะเข้าเรื่องนะครับ "พระกาฬล่องหนคืออะไร" "ทำไมต้องพระกาฬล่องหน" พระกาฬล่องหนคือ ชื่อที่ทางร้านขายหูฟังตั้งฉายาให้นะครับ ซึ่งลักษณะเด่นของหูฟัง Bose คือ ส่วมใส่สะบาย มีน้ำหนักที่เบาเหมือนกับไม่ได้ส่วมใส่อะไรเลย นั้นเองนะครับ ซึ่งส่วนใหญ่ หูฟัง หรือ Headphone จะได้รับฉายานี้เกือบทั้งหมดนะครับ
เข้าเรื่องกันเลย อย่างแรกที่ผมประทับใจก็คือ อุปกรณ์ที่แถมมาให้ นั้นก็คือ กระเป๋าสำหรับเก็บหูฟังนั้งเอง หรือจะเอามาเก็บของเล็กๆน้อยๆก็ได้ไม่ว่ากันนะครับ
 |
| ภาพของกระเป๋าเมื่อเทียบกับโทรศัพท์มือถือของผมนะคับ |
โดยพื้นผิวของกระเป๋าจะเป็น หนังเทียม แล้วภายในจะบุด้วย ผ้ากํามะหยี่นะครับ ให้ความรู้สึกที่เรียบหรูไปอีกแบบหนึ่งเลยทีเดียว
อย่างที่สอง ที่ผมประทับใจนั้นก็คือ การออกแบบของหูฟังนั้นเอง โดยทางการแล้ว รูปทรงของ Bose IE 2 เข้าจะเรียกกันว่าทรง hybrid นะครับ โดยการนำข้อดีของหูฟังทรง Earbud และ In Ear มารวมเข้าด้วยกันนั้นเอง
 |
| หูฟังทรง Earbud |
 |
| หูฟังทรง In Ear |
แต่สำหรับคนทั่วไปเข้าก็จะเรียกกันว่า In Ear อยู่ดีรวมถึงผมด้วย ซึ่งข้อดีของหูฟังทรง Earbud สำหรับผมเลยก็คือ การที่ยังได้ยินเสียงรอบๆตัวอยู่ ทำให้เวลาเดินบนท้องถนนก็ยังสามารถรับรู้สิ่งรอบๆตัวเราได้ ส่วนหูฟังทรง In Ear ก็จะได้ในเรื่องของน้ำเสียงที่ชัดเจนซึ่งไม่มีสิ่งใดมารบกวน และตัวหูฟังเวลาสวมใส่จะยึดติดกับตัวหูได้ดี โดยส่วนตัวเลยผมเป็นคนใส่หูฟังทรง In Ear ไม่ค่อยได้เพราะรู้สึกอึดอัดมากเวลาสวมใส่ ถึงจะเปลี่ยนไปใส่ Size S ก็มีเสียงลมแทรกเข้ามา ซึ่งเสียงลมเหมือนกับเอฟเฟคในหนังเลยทีเดียว
ถึงแม้ว่า Bose IE 2 จะเป็นทรง In Ear แต่ก็เป็น In Ear ที่เวลาสวมใส่แล้วสบายมากๆ ด้วยการออกตัวหูฟังและจุกยางที่ทำมาเป็นพิเศษ
 |
| หน้าตาของหูฟัง |
 |
| หน้าตาของจุกยางขนาดต่างๆ |
เป็นที่แน่นอนว่า ขนาดของจุกยางก็ให้มา 3 ขนาดตามมาตรฐานได้แก่ Size S , M , L โดยที่จุดพิเศษของมันเลยนั้นก็คือ ส่วนที่โค้งออกมาจากจุกยางซึ่งมีไว้เพื่อ คร้องกับบริเวณกระดูกหูของเรานั้นเอง เลยทำให้เวลาสวมใส่นั้นมั่นใจได้เลยว่า จะไม่หลุดออกจากหูของเราอย่างแน่นอนครับ
อย่างสุดท้ายเลยที่ผมประทับใจสุดๆเลยนั้นก็คือ เรื่องของเสียง นั้นเองครับ ซึ่งคนทั่วไปที่พบเห็นก็คงจะคิดว่า "เบสคงจะกระแทกกะทัน อย่างแน่นอน" เอาจริงๆแล้วป่าวเลยครับ จริงอยู่ที่เนื้อเบสนั้นมีปริมาณมาก แต่เนื้อเบสนั้นเป็นเบสนุ่ม ( เป็นเสียงเบสของพวกเครื่องสาย ) เวลาฟังเลยให้ความรู้สึกสบายๆ ไม่ล้าหู บวกกับ การเก็บตัวของเนื้อเบสที่เร็ว ทำให้สามารถฟังเพลงได้ทุกแนว ไม่ว่าจะจังหวะช้า หรือเร็ว ซึ่งแน่นอนว่า เพลงที่ผมใช้ทดลองฟังก่อนตัดสินใจซื้อก็เช่นกัน โดยเริ่มจากแนว Metal อย่าง Dragonforce ในเพลง Heroes of our time ครับ
ผลที่ได้ก็คือ เสียงเบสที่คู่ขนานมากับเสียงของกีต้าร์นั้น ไม่มีการเข้าไปรบกวนย่านเสียงอื่นๆเลย ซึ่งเวลาผมฟังแล้วมีความรู้สึกที่สนุกมากๆ โดยเฉพาะช่วง Solo นั้นมันจริงๆ ครับ
ตามด้วยเพลงแนว Blue อย่าง Big Bang ในเพลง Bad Boy ชนิดที่ว่านั่งฟังกันสบายๆเลยนะครับ
ผลที่ได้ก็ตามคาดเลยคับ เบสที่ติดนุ่มฟังสบาย บวกกับ เสียงร้องที่หวานนิดๆ ถึงกับติดใจเลยทีเดียว
สุดท้ายกับเพลงแนว บรรเลง จากเกม Assassin's Creed 3 ชื่อ
)
ผลที่ได้คือ ความกว้างของเสียง และ รายละเอียดเสียงที่ชัดมาก ถึงกับขนลุกเลยเวลาที่ฟัง จริงทำให้ผมตัดสินใจซื้อและประทับใจจนถึงทุกวันนี้ครับ
สุดท้ายนี้ ในเรื่องของเสียงเพลงนั้น ซึ่งแน่นอนว่าหูของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน ความชอบส่วนตัวก็ย่อมไม่เหมือนกัน การที่ผู้อื่นบอกว่า "เสียงตัวนี้ดีนะ" อาจจะดีสำหรับเข้า แต่อาจจะไม่ดีสำหรับเราเพราะฉะนั้นแล้ว การที่เราอยากจะได้หูฟังดีๆสักตัวนั้น ก็ต้องถามตัวเองว่าเราชอบเสียงแบบไหน รูปทรงแบบใด และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือการที่เราได้ลองฟังด้วยตัวเอง และให้เวลากับสิ่งนี้สักหน่อย เพื่อที่จะได้สิ่งที่เหมาะกับตัวเรานั้นเอง
